วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 20, 2553

ยาเสพติดตามแนวชายแดน


ทุกวันตามแนวชายแดนภาคเหนือเป็นช่องทางการขนยาบ้าเข้าสู่ประเทศไทยเป็นจำนวนมหาศาล การปิดกั้นช่องทางลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านจะทำสำเร็จได้ เพราะเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และประชาชนมีส่วนร่วมในการป้องกัน และปรามปราบยาเสพติด ได้ร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจัง โดยไม่เห็นแก่เงินทองประโยชน์ส่วนตน

โดยเฉพาะกำลังจากประชาชนในพื้นที่แหล่งช่องทางลำเลียงยาบ้า จึงจะสามารถสกัดกั้นหรือป้องปรามการลำเลียงยาบ้าจากประเทศเพื่อนบ้านไม่ให้ข้ามเข้ามาตามแนวชายแดนไว้ได้ในระดับหนึ่ง ถึงแม้จะเปลี่ยนเส้นทางการลำเลียง ไม่ว่าจะเป็นช่องทางไหน ประชาชนทุกคน ประชาสังคมในพื้นที่นั้น ร่วมกันเป็นหูเป็นตาสอดส่อง แจ้งข้อมูลข่าวสาร เบาะแส พฤติกรรมของผู้ขน ผู้ค้า ทุกระดับ โดยไม่เห็นแก่เงินทองค่าจ้างที่ไม่สุจริตไม่ยั่งยืน โดยแจ้งข่าวสารกับส่วนราชการทุกหน่วยงานในพื้นที่

จากการตั้งจุดตรวจ/ด่านตรวจค้นสกัดจับ การเพิ่มความถี่ในการเข้าตรวจค้นกลุ่มบ้านที่มีประวัติค้ายาเสพติด ตลอดจนการเข้มงวดกวดขันของเจ้าหน้าที่ทุก ๆ ฝ่าย ทั้งทางบก และทางน้ำ ทำให้เกิดความยุ่งยากในการลำเลียงยาบ้าข้ามพรมแดนของกลุ่มผู้ค้ายาบ้ามากยิ่งขึ้น และไม่สามารถกระทำได้สะดวก แต่หากขณะนี้ปริมาณของยาบ้าได้เพิ่มปริมาณการเข้ามามากขึ้นกว่าแต่ก่อนจากปริมาณการจับกุมได้ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา สาเหตุประการหนึ่งเป็นเพราะทุกคนคิดว่ายาเสพติดเป็นเรื่องไกลตัว แต่ละคนต้องทำอาชีพ ทำงานหารายได้เลี้ยงครอบครัว ส่งให้ลูกหลานได้รับการศึกษา จนลืมไปว่ายาเสพติดกลับมาทำร้ายลูกหลานของเราที่กำลังศึกษาเล่าเรียน จึงเป็นการเปิดโอกาสช่องทางให้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดทั้งใน และนอกประเทศทุกระดับใช้โอกาสนี้ส่งยาบ้าเข้ามาในประเทศทำลายลูกหลานและประเทศชาติของเราทั้งยังนำเงินของไทยออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นแหล่งผลิตยาเสพติด และยังขยายเส้นทางการขนส่งยาเสพติดเข้าประเทศในรูปแบบต่างๆมากขึ้น เช่น ทางเรือตามลำน้ำโขง ใช้กองทัพมดจ้างขนลำเลียงเข้ามาทุกทิศทางของภาคเหนือ ทั้งผู้ขนเป็นเด็กและผู้หญิง รวมทั้งเข้ามากับแรงงานต่างด้าว เป็นต้น ฉะนั้นประชาชนในพื้นที่แนวชายแดนภาคเหนือ และพื้นที่ภายในประเทศต้องร่วมกันเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ ที่สำคัญที่สุดก็คือการดูแลลูกหลานหรือคนในครอบครัวอย่าให้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดในทุกๆลักษณะไม่ว่าการเสพ ค้า หรือช่วยเหลือผู้อื่นนำเข้าหรือค้ายาเสพติด

เราต้องร่วมมือกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย พลเรือน ตำรวจ ทหาร นักการเมือง กลุ่มองค์กรท้องถิ่น กลุ่มพลังมวลชนต่าง ๆ อาสาสมัครในท้องถิ่น องค์กรอิสระ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมู่บ้านชุมชนบริเวณแนวชายแดนจังหวัด เชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ต้องมีความตื่นตัว ลุกขึ้นมาต่อสู้ต่อปัญหายาเสพติด ปัญหาที่จะกระทบลูกหลานท่านโดยตรง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น